แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในปราณบุรี

1. พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ ถ้ำพระยานคร

……….ถ้ำพระยานคร ตามประวัติแต่โบราณได้ชื่อนี้ เพราะเจ้าพระยานครเป็นผู้ค้นพบคราร่วมเสด็จประพาสในรัชกาลที่ 5 ต่อมาพระมหากษัตริย์ หลายพระองค์ ก็ทรงเสด็จพระราชดำเนิน ใครจะเชื่อว่ายามพระอาทิตย์ส่อง แสงผ่านปล่องเขากระทบกับพลับพลา ที่ประทับเรืองรองงดงามยิ่งกว่าใช้ไฟดวงใด ตามประวัติเล่าว่าในสมัยรัชกาลที่ 1 เจ้าพระยานคร ผู้ครองเมืองนครศรีธรรมราชได้แล่นเรือผ่านทางเขาสามร้อยยอด และเกิดพายุใหญ่ไม่สามารถเดินทาง ต่อไปได้ จึงจอดพักเรือหลบพายุที่ชายหาดแห่งนี้เป็นเวลาหลายวัน และได้สร้างบ่อน้ำเพื่อใช้ดื่ม เรียกว่า “บ่อพระยานคร” “ถ้ำพระยานคร” วันเวลาที่แนะนำชมลำแสงยามเที่ยงลอดช่องเพดานลงสู่พระที่นั่งฯ ช่วงเวลาที่สวยที่สุดคือ 10.30-11.30 น. สามารถเที่ยวได้ทั้งปี
……….บริเวณกำแพงหินด้านขวามีพระปรมาภิไธยย่อในรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 เป็นตัวหนังสือใหญ่สีขาวสะดุดตา และอีกฝั่งหนึ่งของถ้ำเป็นหินรูปเจดีย์  เป็นหินงอ ที่มีรูปร่างคล้ายกับเจดีย์หลายยอด  บริเวณฐานจะมีพระพุทธรูปหนึ่งองค์ และผ้าแพร 7 สีพันล้อมรอบหินอยู่ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างหนึ่ง ภายในถ้ำและเป็นสิ่งที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้นอย่างมหัศจรรย์
(ขอขอบคุณข้อมูลจาก wongnai.com)
(ขอขอบคุณข้อมูลจาก paiduaykan.com)

2. ชายหาดปากน้ำปราณ

……….ชายหาดปากน้ำปราณ เป็นชายหาดที่ยาวต่อเนื่องจากชายหาดหัวหิน ประกอบด้วย วนอุทยานปราณบุรี และชายหาดที่สวยงามทอดยาวจรดอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด แม้จะอยู่ใกล้หัวหินแต่เป็นชายหาดที่เงียบสงบร่มรื่น
(ขอขอบคุณข้อมูลจาก edtguide.com)

3. ตลาดเก่าเมืองปราณ

……….ถนนคนเดิน ตลาดเก่าปราณบุรี มีความเก่าแก่มากกว่า 200 ปี ยังคงรักษาสภาพความเป็นตลาดเก่าไว้ได้อย่างดี และในทุกๆวันเสาร์ได้จัดให้มีถนนคนเดินแถวตลาดเก่าปราณบุรี ซึ่งบริเวณนั้นมีบ้านไม้ ร้านกาแฟ และร้านอาหารเก่าแก่ที่เคยขึ้นชื่อมาแต่ครั้งอดีต ส่วนภายในประกอบด้วยร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก ร้านหนังสือเก่าๆเกี่ยวกับการท่องเที่ยว รวมถึงอาหารกินเล่นรสชาติเยี่ยม
(ขอขอบคุณข้อมูลจาก edtguide.com)

4. หมู่บ้านประมงปากน้ำปราณ

……….หมู่บ้านประมงปากน้ำปราณ ( Fisherman Village ) ชื่อเดิมแต่ก่อนเรียกว่า “ปากคลองปราณ” เนื่องจากมีแม่น้ำปราณบุรีไหลผ่านลงสู่ปากอ่าวทะเล และยังเป็นที่ตั้งสมาคมประมงแห่งแรกของประเทศไทย ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ปากน้ำปราณ” และใช้ชื่อนี้จนถึงปัจจุบัน ชาวบ้านส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพประมง จึงกลายเป็นศูนย์รวมอาหารทะเลใหม่ๆสดๆ และจำหน่ายในราคาย่อมเยาว์
(ขอขอบคุณข้อมูลจาก edtguide.com)

5. ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี

……….ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี  ( sirinart rajini ecosystem learning center ) เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการฟื้นฟูป่าชายเลนจากนากุ้งร้างแห่งแรกของประเทศไทย  ป่าผืนนี้ฟื้นชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยน้ำพระราชหฤทัยของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ จนปัจจุบันถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่น่าท่องเที่ยว บรรยากาศร่มรื่นด้วยแนวต้นไม้ที่ทอดยาวกว่า 1 กิโลเมตร มีกิจกรรมล่องเรือสัมผัสธรรมชาติและศึกษาระบบนิเวศป่าชายเลนทางน้ำให้ได้เพลิดเพลินกันอีกด้วย
(ขอขอบคุณข้อมูลจาก wongnai.com)
(ขอขอบคุณข้อมูลจาก edtguide.com)

6. วัดตาลเจ็ดยอด

……….วัดตาลเจ็ดยอด ( Wat Tan Chet Yot ) เป็นที่ประดิษฐาน รูปหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)  ขนาดหน้าตักกว้าง 11 เมตร สุง 18 เมตร น้ำหนักรวม 50,000 กิโลกรัม หล่อจากโลหะทองเหลืองเป็นชิ้นใหญ่ 16 ชิ้น ซึ่งถือว่าเป็นรูปหล่อองค์ที่ใหญ่ที่สุดในขณะนี้ และด้านหน้าองค์สมเด็จโต มีการเทหล่อรูปเหมือนขนาดบูชาเท่าองค์จริงของครูบาอาจารย์หลายรูป อาทิ พระอาจารย์มั่น หลวงปู่ทวด หลวงปู่ศุข หลวงปู่สดและพระพุทธรูปอีกหลายองค์ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ในปราณบุรีที่ห้ามพลาด
(ขอขอบคุณข้อมูลจาก wongnai.com)
(ขอขอบคุณข้อมูลจาก edtguide.com)

7. วัดเขากะโหลก

……….วัดเขากะโหลก ตั้งอยู่ในอำเภอสามร้อยยอด ก่อนถึงหาดเขากะโหลก เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีความสวยงามทางสถาปัตยกรรมมีพระวิหารสีทองอร่ามตาและลวดลายของพระวิหารและกำแพงที่รายล้อมสวยงาม บรรยากาศร่มรื่นสงบ เป็นธรรมชาติมองเห็นภูเขาของสามร้อยยอดอยู่รอบด้าน ด้านหน้าทางเข้ามียักษ์ 2 ตน เฝ้าหน้าประตูวัด ด้านหลังมีรูปปั้นของพระพิฆเนศอยู่บริเวณกำแพง ภายในพระวิหาร ก็จะประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายไม่ว่าจะเป็น กรมหลวงชุมพร เสด็จพ่อ ร.5 ที่น่าสนใจคงจะเป็นหลวงพ่อหว่าง อุตุตโม เจ้าอาวาสองค์แรกของวัดเขากะโหลกแห่งนี้ 
……….ในเวลากลางคืนเมื่อมีการเปิดไฟส่องไปยังตัวอุโบสถจะส่องประกายสีทองสวยงามมาก ปัจจุบันวัดนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก และยังมีประชาชนอีกไม่น้อยที่มีความศรัทธาในตำนานสมบัติจระเข้จักรพรรดิ์  ซึ่งกลายเป็นวัตถุมงคลที่สิ่งศักดิ์สิทธิของวัดเขากะโหลก  ชาวบ้านที่นำไปบูชาต่างบอกว่าโชคลาภเป็นยอด ค้าขายเป็นเยี่ยม
(ขอขอบคุณข้อมูลจาก paiduaykan.com)

8. วนอุทยานท้าวโกษา (เขากะโหลก)

……….เขากะโหลกเป็นภูเขาลักษณะภายนอกคล้ายกะโหลก มียอดเขาสูง 25 ม. และเนื่องจากความชันและสลับซับซ้อนของภูเขาลูกนี้ทำให้หาดทรายกลายเป็นองค์ประกอบของเชิงเขาที่สวยงามและโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เขาทางด้านเหนือมีช่องทะลุขนาดใหญ่ โดยทะลุเป็นเบ้าตากลวงโบ๋ อันเป็นที่มาของชื่อเขากะโหลก
……….วนอุทยานท้าวโกษา (เขากะโหลก) ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 4 เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ของนักท่องเที่ยว และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ เพราะมีชายหาดที่สวยงาม และบริเวณรอบๆ มีร้านอาหารเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว
(ขอขอบคุณข้อมูลจาก thailandexhibition.com)
(ขอขอบคุณข้อมูลจาก thai-tour.com)

Pool Villa Plus - เลือกบ้านพักที่ใช่...ในโลเคชั่นที่คุณชอบ !